แบตเตอรี่ที่สตาร์ทไม่ติดแล้วสามารถฟื้นฟูได้หรือไม่?

ตอบ: แบ่งได้เป็น 3 กรณี
     1) แบตเตอรี่ใหม่ แค่ไฟหมด ฟื้นฟูได้ - มักเกิดกับแบตเตอรี่ที่ยังใหม่อยู่และเริ่มเสื่อม กรณีนี้ใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK ชาร์จเข้าไป ประมาณ 10 นาทีก็สตาร์ทติดแล้ว แต่ก็แนะนำให้ชาร์จต่อไปจนเต็ม เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะไฟหมดอีก การที่รถเริ่มสตาร์ทไม่ติดเป็นสัญญาณเตือนให้ท่านต้องหมั่นชาร์จแบตเตอรี่ให้ไฟเต็มอยู่เสมอ หากปล่อยทิ้งไว้ตามพฤติกรรมการใช้รถ ท่านอาจต้องเสียเงินซื้อแบตเตอรี่ลูกใหม่มาเปลี่ยนในเวลาอันรวดเร็ว
ในกรณีนี้ เมื่อใช้เครื่อง CTEK Analyzer วัดค่า CCA (Cold Crank Ampre) หรือเรียกง่ายว่าเป็นกำลังในการสตาร์ท ในกรณี่นี้ ค่าCCAมักจะเพิ่มขึ้นหลังการชาร์จ และค่า CCA มักจะยังสูงอยู่เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ใหม่รุ่นเดียวกัน
     2) แบตเตอรี่เริ่มเสื่อม ฟื้นฟูได้ - ใช้โหมด Recond ในการชาร์จ อาจใช้เวลาทั้งวันในการฟื้นฟู ค่า CCA มักจะอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ลูกใหม่รุ่นเดียวกัน หลังจากการฟื้นฟู ค่า CCA มักจะเพิ่มขึ้นแต่ไม่มาก
     3) แบตเตอรี่หมดสภาพ ฟื้นฟูไม่ได้ - แบตเตอรี่ที่หมดสภาพแล้วอาจชาร์จไฟไม่เข้า หรือชาร์จไฟเข้าแต่คายประจุอย่างรวดเร็ว หรือ สูญเสียกำลังในการสตาร์ท ในกรณีนี้ เมื่อวัดค่า CCA ด้วย CTEK Analyzer ค่า CCA มักจะต่ำเกินกว่าที่รถจะใช้สตาร์ทได้ (รถแต่ละรุ่นใช้กำลังในการสตาร์ทจากแบตเตอรี่ไม่เท่ากัน) และค่า CCA มักจะไม่เพิ่มขึ้นหลังการชาร์จ แบตเตอรี่ที่ตายแล้วก็เหมือนคนที่ตายแล้ว ไม่สามารถฟื้นฟูได้ ต้องเปลี่ยนใหม่ อย่างไรก็ตามแบตเตอรี่ที่ตายแล้วสำหรับรถยนต์สามารถนำไปใช้งานอย่างอื่นได้ที่ไม่ต้องใช้กำลังในการสตาร์ทเช่นให้แสงสว่าง หรือเก็บไฟสำหรับวงจรโซล่าเซลล์เป็นต้น
     สรุป เมื่อสตาร์ทไม่ติด ควรชาร์จแบตเตอรี่ด้วยเครื่องชาร์จ CTEK ด้วยโหมด Recond ฟื้นฟูสภาพ หลังจากนั้นควรหมั่นชาร์จให้ไฟเต็มอยู่เสมอ หากฟื้นฟูแล้วยังสตาร์ทไม่ติด แสดงว่าแบตเตอรี่หมดสภาพ ต้องเปลี่ยนลูกใหม่แล้ว